5 พ.ย.60 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ได้นำตัวนายคำแสวง หรือแหวง แสงมณี อายุ 25 ปี ชาวลอาศัยอยู่บ้านนากระเสริม ต.พนอม อ.ท่าอุเทน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเหตุฆ่า นายวุฒิชัย หรือโอเล่ อนุวรรณ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/3 หมู่ 8 บ้านเหล่าหนาด ต.พนอม ในที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านของนายแหวง โดยเหตุเกิดเมื่อเวลา 22.30 น. กลางดึกของวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา ร.ต.อ.สุพจน์ แก้วมณี รอง สว.สอบสวน สภ.ท่าอุเทน รับแจ้งจากนางลัดดา ชัยหาญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 บ้านนากระเสริม ว่ามีเหตุฆ่ากันตายในรั้วบ้านดังกล่าว เส้นทางออกถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212(นครพนม-บ้านแพง) จึงเดินทางไปที่เกิดเหตุร่วมกับ พ.ต.อ.ธานัท จิราธนะกุล ผกก. พ.ต.ท.สุขสวัสดิ์ บัวอิ่น รอง ผกก.สอบสวน พ.ต.ท.ฌานนท์ เนื่องกัลยา รอง ผกก.ป. แพทย์เวร รพ.ท่าอุเทน และเจ้าหน้าที่กู้ชีพ 1669
พบศพผู้ตายชื่อนายวุฒิชัย หรือโอเล่ นอนจมกองเลือดอยู่ข้างแคร่ไม้ บนลานกว้างของบ้าน สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาวทับด้วยเสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงวอร์มสีเขียว รองเท้าแตะสีขาว มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งเข้าบริเวณใบหน้าด้านขวา เลือดไหลทะลักออกทางปาก จมูก และหู ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ บนแคร่ไม้พบขวดเหล้าขาว 40 ดีกรี ถูกดื่มไปเหลือติดก้นขวดเล็กน้อย และจานกับแกล้มที่กินหมดแล้ว จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายแสวง หรือแหวง ได้หลบหนีไปกับความมืด จึงบอกแก่ น.ส.แววตา ผาอินดี อายุ 22 ปี ผู้เป็นภรรยาของฆาตกร ให้ติดต่อนายแหวงมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ดีกว่าเพราะหนีไปก็ไม่รอด
กระทั่งรุ่งเช้าของวันที่ 5 พ.ย. ขณะเจ้าหน้าที่เตรียมขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดนครพนม นายแสวง ก็โผล่มาพร้อมกับญาติขอเข้ามอบตัว รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง เล่าว่าเย็นวันที่ 4 พ.ย. ตนกำลังเก็บไก่ชนเข้าเล้า นายโอเล่ ผู้ตายก็นำเงินที่ค้างค่าซื้อสุ่มไก่ จำนวน 300 บาท มายื่นให้ ตนจึงชวนนั่งดื่มเหล้าขาวแก้เมื่อย บริเวณแคร่ไม้ตรงลานกว้างของบ้าน พอดื่มเข้าขวดที่สองเริ่มเสียงดังทั้งสองฝ่าย นายโอเล่ คุยว่าไก่ตีนั้นเหนือชั้นกว่าไก่ชนของของตน จึงมีการถกเถียงรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะต่างฝ่ายก็คุยว่าไก่ชนของแต่ละคนนั้นแน่กว่า นายโอเล่ พูดจาเชิงดูถูกว่านายแหวง นั้นไม่ใช่คนไทยอย่ามาเก่ง ด้วยความโมโหที่ถูกเหยียดหยามถึงสัญชาติ เหลือบเห็นไม้เหลี่ยมยาว 1 เมตร วางไว้ข้างรั้วบ้าน จึงลุกขึ้นคว้าฟาดกระหน่ำบริเวณใบหน้านายโอเล่ ขณะนั่งหันหลังไป 3 ที จนร่างร่วงตกจากแคร่ไม้นอนนิ่งเลือดออกปาก จมูก และหู ตนนึกว่าสลบจึงเอาสายยางเปิดน้ำฉีดหวังให้ฟื้น แต่รู้ว่านายโอเล่เสียชีวิต จึงกลัวความผิดหลบหนีไปทางหลังบ้านซ่อนตัวอยู่ในป่า จนภรรยาโทรศัพท์ติดต่อให้มอบตัว จึงออกจากป่ามารับผิดดังกล่าว
ทั้งนี้ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมนำตัวนายแสวงไปทำแผน ญาติของนายโอเล่ผู้ตายทราบข่าว จึงรวมตัวกันมารอยังบ้านที่เกิดเหตุ หมายจะรุมประชาทัณฑ์ เจ้าหน้าที่จึงใช้กำลังตำรวจปราบจลาจลมาป้องกันไว้ โดยรีบนำตัวผู้ต้องหาชี้จุดที่เกิดเหตุ ท่ามกลางเสียงตะโกนด่าจากญาติของผู้ตาย ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีจึงเสร็จเรียบร้อย และรีบพาตัวกลับ สภ.ท่าอุเทน พร้อมดำเนินคดีในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาต่อไป
Cr.facebook...พร้อมพันธ์ กุลภา
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น