ผู้สูงอายุ เทศบาล ต. น้ำก่ำ วอนผู้เกี่ยวข้องออกมาชี้แจง...หลังเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุออกล่าช้า




 3 พ.ย.60 ที่วัดบ้านทู้สระพังทอง หมู่ 6 ต.น้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม มีผู้สูงอายุใน ต.น้ำก่ำจำนวน 4 หมู่บ้านและคนพิการกว่า 50 คน ทยอยเดินทางมาชุมนุมทวงถามเงินเบี้ยยังชีพและเงินคนพิการจากเทศบาล ต.น้ำก่ำ มานานถึง 2 เดือน จึงต้องมาทวงถามให้ชัดเจนหวั่นซ้ำรอยเดิมเช่นเดียวกันเมื่อ 2 ปีที่แล้วที่ทาง เทศบาลตำบล น้ำก่ำ ไม่ได้จ่ายเบี้ยยังชีพ และเบี้ยผู้พิการติดต่อกันหลายเดือนจนต้องพากันออกเคลื่อนไหวเรียกร้องว่าเมื่อไหร่จะได้สักที เพราะพวกตนได้รับความเดือดร้อนมากเนื่องจากก่อนหน้านี้ได้ ติดหนี้ร้านค้าในหมู่บ้านไว้โดยคิดว่าจะนำเงินเบี้ยยังชีพมาจ่ายให้ภายหลังในเวลาไม่นาน แต่นี่ล่วงเลยมากว่าสองเดือนแล้วร้านค้าก็ไม่ยอมให้ติดหนี้อีกต่างหาก ต่อมานายอติชาต อุณหเลขกะ นายอำเภอธาตุพนม พร้อมนายสวย แสงสุวรรณ รองนายกเทศมนตรีเทศบาล ต.น้ำก่ำ นายสนิต ชะนะชน กำนัน ต.น้ำก่ำ และว่าที่ ร.ต.ธัชพล ท้าวนาง ผอ.กองสวัสดิการสังคม เทศบาล ต.น้ำก่ำ เดินทางมาชี้แจงกับผู้ชุมนุม พร้อมรับปากกับคนชราทุกคนว่าจะได้รับเงินแน่นอนในเร็วๆวันนี้เนื่องจากทางเทศบาลฯได้ทำเรื่องของบประมาณไปหมดแล้วแต่เงินยังมาไม่ถึงเนื่องจากอยู่ในช่วงเริ่มปีงบประมาณใหม่ ว่าที่ ร.ต.ธัชพล กล่าวชี้แจงว่า ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเบี้ยให้ผู้พิการ เป็นรายเดือนให้กับผู้มีสิทธิ์จะได้รับเงินภายในวันที่ 10 ของทุกเดือนนั้น เนื่องจากเดือน ต.ค.2560 เป็นเดือนแรกของปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ทางกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นยังไม่ได้โอนเงินงบประมาณดังกล่าวให้กับเทศบาล ต.น้ำก่ำ เหตุที่จ่ายเงินเบี้ยยังชีพและเงินผู้พิการล้าช้า เนื่องจากเทศบาล ต.น้ำก่ำมีเงินสะสมไม่เพียงพอ จึงไม่สามารถจ่ายให้ได้
ทางด้านนายสมชาย วิทย์ดำรง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมชี้แจงว่า กรณี ผู้สูงอายุในเขต เทศบาลน้ำก่ำ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ได้ชุมนุมร้องเรียนเกี่ยวกับการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ข้อเท็จจริง ณ ขณะนี้ จ.นครพนม ตาม หนังสือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้แจ้งการจัดสรรเงินฯ ให้ เทศบาลน้ำก่ำ ทราบแล้ว แต่เนื่องจากเงินเบี้ยยังชีพยังไม่เข้าบัญชีคาดว่าภายในวันที่ 7-8 พ.ย.60 เงินจะโอนเข้าระบบ ซึ่ง จ.นครพนมได้ประสานและกำชับให้เทศบาลน้ำก่ำ รีบดำเนินการจ่ายเงินให้ผู้มีสิทธิ์ฯ โดยเร่งด่วนต่อไปแล้ว


ขอบคุณ...เฟสบุ๊ค พร้อมพันธ์ กุลภา

ความคิดเห็น