เพราะทุกวันนี้ ครอบครัวส่วนใหญ่มีเทคโนโลยีต่างๆเข้ามา และบวกกับการต้องหาเลี้ยงปากท้องกัน เลยฝากลูกน้อยไว้กับโทรศัพท์มือถือ แท็ปเล็ตให้ลูกเล่น เพราะลูกจะนอนดูนิ่งไม่มากวนใจ พ่อแม่จะได้ทำอะไรสะดวกมากขึ้น
1.สมาธิลูกจะสั้น
เนื่องจากภาพที่เห็นในโทรศั
เป็นจุดที่จะดึงดูดให้เด็กส
แต่ในทางกลับกัน หากเด็กต้องทำกิจกรรมอื่นๆน
เด็กจะไม่สามารถจดจ่อหรือมี
หรือที่เรียกว่า “สมาธิสั้น” นั่นเอง
2.สายตาลูกจะเสีย
การที่เด็กใช้สายตาจ้องมองห
ทั้งจากแสงที่จ้าของหน้าจอ
ทำให้สายตาของเด็กจะมีอาการ
บางครั้งก็อาจจะอักเสบได้
และโดยเฉพาะหากดูในบริเวณที
ย่อมส่งผลโดยตรงต่อสายตาแน่นอน
และมีโอกาสสูงที่จะสายตาสั้
3.ลูกจะกร้าวร้าว
เด็กอาจเห็นภาพการใช้ความรุ นแรงผ่านสื่อบนอุปกรณ์มือถื อหรือแท็ปเล็ต เช่น เกมส์ หรือภาพยนตร์ที่มีความรุนแร ง มีผลให้เด็กมีพฤติกรรมก้าวร ้าว เอาแตใจ และถ้าหากถูกห้ามไม่ให้เล่น ก็มักจะหงุดหงิด ไม่พอใจไม่ยอมรับเหตุผลและอ าจมีพฤติกรรมโต้เถียงคุณพ่อ คุณแม่ได้นะคะ
4.พัฒนาการลูกจะช้ากว่าคนอื่น
มีตัวอย่างมากมายรวมถึงงานว ิจัยต่างๆว่าในช่วงเด็กทารก ถึงวัย 2 ขวบ
สมองของเด็กจะมีการมีการพัฒ นาเติบโตขึ้นเป็น 3 เท่า
ซึ่งสิ่งแวดล้อมต่างๆนี่เอง จะเป็นตัวกระตุ้นให้สมองมีก ารพัฒนา
หากเด็กใช้เวลาอยู่กับหน้าจ อมากๆ ศักยภาพในการเติบโตของสมองจ ะถูกบั่นทอนลงอย่างมาก
ทำให้เด็กเรียนรู้ได้ช้าลง โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกั บเด็กวัยเดียวกัน
สมองของเด็กจะมีการมีการพัฒ
ซึ่งสิ่งแวดล้อมต่างๆนี่เอง
หากเด็กใช้เวลาอยู่กับหน้าจ
ทำให้เด็กเรียนรู้ได้ช้าลง โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกั
5.ลูกจะกลายเป็นเด็กใจร้อน
การที่โทรศัพท์หรือแท็ปเล็ท สามารถตอบสนองได้ไว
การเปลี่ยนภาพต่างๆเด็กจะทำ ได้เพียงใช้นิ้วจิ้มหรือปัด
ส่งผลให้เด็กติดอาการที่ต้อ งการๆตอบสนองที่รวดเร็ว
ไม่รู้จักการรอคอย เอาแต่ใจตัวเองมากขึ้นและกล ายเป็นคนใจร้อนได้ง่ายเลยค่ ะ
การเปลี่ยนภาพต่างๆเด็กจะทำ
ส่งผลให้เด็กติดอาการที่ต้อ
ไม่รู้จักการรอคอย เอาแต่ใจตัวเองมากขึ้นและกล
6.ร่างกายลูกจะไม่แข็งแรง
การที่เด็กใช้เวลาส่วนใหญ่น ั่งเล่นโทรศัพท์หรือแท็ปเล็ ท
โดยนั่งนิ่งๆไม่ได้ขยับร่าง กาย
ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวอวัยว ะส่วนต่างๆ
ไม่มีการการพัฒนากล้ามเนื้อ ส่วนต่างๆตามวัยที่ควรจะเป็ น
นอกจากจะทำให้ร่างกายอ่อนแอ แล้ว
ยังมีผลต่อการเรียนรู้และกา รอ่านออกเขียนได้
ซึ่งเด็กในวัยนี้จำเป็นที่จ ะต้องได้เล่น
ได้เคลื่อนไหวร่างกาย ได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสอ
โดยนั่งนิ่งๆไม่ได้ขยับร่าง
ไม่ได้มีการเคลื่อนไหวอวัยว
ไม่มีการการพัฒนากล้ามเนื้อ
นอกจากจะทำให้ร่างกายอ่อนแอ
ยังมีผลต่อการเรียนรู้และกา
ซึ่งเด็กในวัยนี้จำเป็นที่จ
ได้เคลื่อนไหวร่างกาย ได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสอ
7.ลูกจะเข้ากับเพื่อนได้ยาก
เนื่องจากเด็กใช้เวลาส่วนให ญ่อยู่กับหน้าจอ
จึงขาดการเรียนรู้ในการมีปฏ ิสัมพันธ์กับผู้อื่น
เมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่ นจึงปรับตัวยาก
จึงขาดการเรียนรู้ในการมีปฏ
เมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่
8.ลูกจะเป็นเด็กอ้วนได้ง่ายกว่าคนอื่น
โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้ใหญ่มักจะเตรียมอาหารหรื อขนมเอาไว้ใกล้ๆเด็ก
ในขณะที่เด็กนั่งเล่นโทรศัพ ท์มือถือหรือแท็ปเล็ต
เมื่อเด็กมีการเคลื่อนไหวน้ อยลง ขาดการออกกำลังกาย
จึงกลายเป็นเด็กอ้วนได้ง่าย ทำให้เกิดโรคอื่นๆตามมา
ในขณะที่เด็กนั่งเล่นโทรศัพ
เมื่อเด็กมีการเคลื่อนไหวน้
จึงกลายเป็นเด็กอ้วนได้ง่าย
9.ลูกจะไม่สนใจสิ่งรอบกาย
เนื่องจากเด็กจะจดจ่ออยู่กั บหน้าจอเป็นเวลานานๆ
มักจะไม่ได้ทำกิจกรรมอื่นใด ไม่สนใจที่จะเรียนรู้สิ่งรอ บๆตัว อยู่ในโลกที่ตัวเองต้องการเ ท่านั้น
มักจะไม่ได้ทำกิจกรรมอื่นใด
10.ลูกจะขาดระเบียบวินัยได้
เมื่อเด็กอยู่ในอาการติดหน้ าจอแล้วจะไม่ยอมทำอะไรเลย
เอาแต่จดจ่ออยู่ว่าเมื่อไรจ ะได้เล่น
ยิ่งหากคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้ต ั้งกฎเกณฑ์ให้เด็กมีหน้าที่ ต้องรับผิดชอบอะไร
ต้องทำอะไรบ้าง เด็กจะทำทุกอย่างตามใจตนเอง
หากไม่แก้ไขตั้งแต่เนิ่นๆ ภายหลังจะแก้ได้ยาก
เอาแต่จดจ่ออยู่ว่าเมื่อไรจ
ยิ่งหากคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้ต
ต้องทำอะไรบ้าง เด็กจะทำทุกอย่างตามใจตนเอง
หากไม่แก้ไขตั้งแต่เนิ่นๆ ภายหลังจะแก้ได้ยาก
11.ลูกอาจเลียนแบบพฤติกรรมที่ไม่ดีบนสื่อได้
เด็กๆยังไม่สามารถที่จะแยกแ ยะว่าสิ่งใดดี สิ่งใดไม่ดี
ซึ่งเด็กในวัยมักจะเลียนแบบ คนที่ใกล้ชิด
หรือสิ่งที่ได้เห็น ได้ยินอยู่บ่อยๆ
ที่เรามักจะเห็นเด็กๆเลียนแ บบตัวการ์ตูนต่างๆ
มีการต่อสู้ การทำร้ายกัน
ทำให้เป็นคนก้าวร้าว
หากผู้ใหญ่ไม่ควบคุมดูแล ลักษณะนิสัยแบบนี้จะติดตัวเ ด็กไปอย่างถาวร
ซึ่งเด็กในวัยมักจะเลียนแบบ
หรือสิ่งที่ได้เห็น ได้ยินอยู่บ่อยๆ
ที่เรามักจะเห็นเด็กๆเลียนแ
มีการต่อสู้ การทำร้ายกัน
ทำให้เป็นคนก้าวร้าว
หากผู้ใหญ่ไม่ควบคุมดูแล ลักษณะนิสัยแบบนี้จะติดตัวเ
12.แสงจากสมาร์ทโฟนอาจมีผลต่อสมองลูกได้
รังสีที่แผ่ออกมาจากอุปกรณ์ จำพวกสมาร์ทโฟนเหล่านี้จะมี ผลเสียโดยตรงต่อสมองก็ตาม
แต่ก็มีตัวอย่างมากมายที่มี ผลต่อเด็กที่อยู่ในปัจจัยเส ี่ยงเช่นนี้
เด็กจะมีอาการปวดศีรษะอยู่บ ่อยๆ หรือหากร้ายแรงอาจจะเกิดเนื ้องอกในสมอง
และหากร้ายแรงอาจถึงขั้นเป็ นมะเร็งได้
ซึ่งหากพิจารณาจากร่างกายขอ งเด็กแล้ว
กระโหลกศีรษะของเด็กยังมีคว ามบางอยู่
ยังไม่มีความหนามากพอที่จะป ิดกั้นรังสีเหล่านี้ได้
ทางที่ดีควรจะหลีกเลี่ยงไว้ ก่อนค่ะ
แต่ก็มีตัวอย่างมากมายที่มี
เด็กจะมีอาการปวดศีรษะอยู่บ
และหากร้ายแรงอาจถึงขั้นเป็
ซึ่งหากพิจารณาจากร่างกายขอ
กระโหลกศีรษะของเด็กยังมีคว
ยังไม่มีความหนามากพอที่จะป
ทางที่ดีควรจะหลีกเลี่ยงไว้
13.ลูกอาจนอนฝันร้ายได้
โดยเฉพาะเด็กเล็กๆจะมีอาการ ฝันร้าย ร้องงอแงกลางดึกได้บ่อย
เพราะเด็กจะเก็บเอาภาพต่างๆ ที่ได้รับมาทั้งวันไปฝัน
เมื่อมีอาการเหล่านี้บ่อยๆ เด็กจะพักผ่อนได้ไม่พอ
ซึ่งการนอนหลับที่สนิทและได ้เวลาที่เพียงพอ จะเป็นช่วงเวลาที่
ฮอร์โมนที่สำคัญต่อการเจริญ เติบโตจะถูกสร้างและหลั่งออ กมา
หากการนอนถูกขัดจังหวะด้วยฝ ันร้ายบ่อยๆ
จะส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกา ยและจิตใจของเด็กได้เลยค่ะ
เพราะเด็กจะเก็บเอาภาพต่างๆ
เมื่อมีอาการเหล่านี้บ่อยๆ เด็กจะพักผ่อนได้ไม่พอ
ซึ่งการนอนหลับที่สนิทและได
ฮอร์โมนที่สำคัญต่อการเจริญ
หากการนอนถูกขัดจังหวะด้วยฝ
จะส่งผลต่อสุขภาพทั้งร่างกา
14.ลูกจะขาดความอบอุ่น
การที่ปล่อยให้เด็กมีเพื่อน เป็นมือถือหรือแท็ปเล็ตอยู่ เสมอ
ความใกล้ชิดหรือสนิทสนมระหว ่างคุณพ่อคุณแม่ก็จะน้อย
แม้บางครั้งจะอยู่ด้วยกันก็ ตาม แต่คุณพ่อคุณแม่ทำงานอยู่ทา งหนึ่ง
ลูกก็อยู่อีกมุมหนึ่ง ไม่ได้มีกิจกรรมร่วมกันทำให ้เกิดความห่างเหิน
โดยเฉพาะเด็กเล็กๆที่ยังอยู ่ในวัยที่ต้องการความรัก ความอบอุ่นจากพ่อและแม่
การได้อยู่ใกล้ชิด ได้เล่น ได้พูดคุยกัน เด็กจะมีการพัฒนาการที่ดี
ซึ่งพื้นฐานก็มาจากความรักแ ละความอบอุ่นที่มาจากครอบคร ัวนั่นเอง
ความใกล้ชิดหรือสนิทสนมระหว
แม้บางครั้งจะอยู่ด้วยกันก็
ลูกก็อยู่อีกมุมหนึ่ง ไม่ได้มีกิจกรรมร่วมกันทำให
โดยเฉพาะเด็กเล็กๆที่ยังอยู
การได้อยู่ใกล้ชิด ได้เล่น ได้พูดคุยกัน เด็กจะมีการพัฒนาการที่ดี
ซึ่งพื้นฐานก็มาจากความรักแ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น