สาเหตุของโรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์เกิดจากการมีกรดยูริกในเลือดมากเกินไป (hyperuricemia) ซึ่งสาเหตุของภาวะกรดยูริกในเลือดสูงมีคำอธิบายที่ยังไม่ชัดเจน แต่มีความเชื่อว่าปัจจัยทางด้านพันธุกรรมน่าจะมีบทบาทสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะดังกล่าว
เมื่อกรดยูริกในเลือดสูงขึ้น อาจตกผลึกในข้อต่อ ซึ่งจะกระตุ้นกระบวนการในระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งจะก่อให้เกิดการอักเสบ รวมถึงอาการปวด และบวมของข้อต่อ
แม้ว่าสาเหตุของโรคเก๊าท์ที่แท้จริงยังไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัด แต่ปัจจัยเสี่ยงบางอย่างพบว่าเกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นของกรดยูริกโดยตรง ได้แก่
1.การมีน้ำหนักเกินกว่ามาตรฐาน
2.รับประทานอาหารที่มีพิวรีน (purine) สูง เช่น เนื้อสัตว์ และอาหารทะเล เนื่องจากพิวรีนสามารถเปลี่ยนเป็นกรดยูริกได้ภายในร่างกาย
3.ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
4.ยาบางชนิดที่อาจเพิ่มระดับของกรดยูริก เช่น แอสไพริน (aspirin) ไนอาซิน (niacin) หรือการใช้ยา-ขับปัสสาวะ (diuretics)
5.ความเจ็บป่วยหรือสภาวะทางการแพทย์บางประการ เช่น การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว หรือโรคความดันโลหิตสูง
กรดยูริคคืออะไร
กรดยูริคนั้นเป็นสารที่เกิดจากร่างกายของเรา สามารถสร้างขึ้นได้เองถึง 80% ในร่างกาย ส่วนอีก 20% ที่เหลือ จะนำเข้ามาจากรับประทานอาหาร ที่มีสารพิวรีนเข้าไป โดยสารพิวรีนสามารถพบได้ในอาหารจำพวก สัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ พืชผักบางชนิด และอาหารทะเลบางอย่าง
ถ้าหากในร่างกายมีกรดยูริคมากเกินไปจะส่งผลต่อร่างกายอย่างไร
ตามปกติแล้วร่างกายของคนเรา จะขับกรดยูริคที่เกินความจำเป็นออกไป ได้ทางปัสสาวะ แต่ในร่างกายของบางคนไม่สามารถขับกรดยูริคออกไปได้หมด จึงเกิดกรดยูริคสะสมในร่างกาย โดยเฉพาะในบริเวณของกระดูก ผนังหลอดเลือด และไต(ที่เป็นตัวฟอกเลือด+ขับกรดยูริคไปทางปัสสวะ) ดังนั้น การขับกรดยูริคออกไปไม่หมดจนตกตะกอนมากๆ จึงกลายเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคเก๊าท์
อาการของโรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์ในระยะเริ่มแรก คือมีอาการปวดแดงอย่างเฉียบพลัน โดยในช่วงวันแรกจะเป็นช่วงที่ปวดมากที่สุด และไม่มีอาการเตือนล่วงหน้า จุดที่จะแสดงอาการก่อนส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้แก่นิ้วโป้งเท้า และตรงข้อเท้า และข้อเข่า หลังจากเวลาผ่านไปในวันที่สองอาการปวดก็จะเบาบางลงและหายปวดใน 5 – 7 วันหลังเกิดอาการ โดยสถิติแล้วพบว่า เพศชายมีโอกาสเป็นโรคเก๊าท์มากกว่าเพศหญิง
อาการที่เด่นชัดของโรคเก๊าท์ คือ โพดากร้า (podagral) ซึ่งจะมีอาการอักเสบของข้อที่นิ้วหัวแม่เท้า ผู้ป่วยจะรู้สึกปวด รวมถึงสังเกตได้ว่าข้อเท้ามีอาการบวมแดงและร้อน อาการปวดมักจะเริ่มต้นในช่วงกลางคืน ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการปวดอาจเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 1 ชั่วโมง
โรคเกาต์ เป็นโรคที่รักษาให้หายขาดยากเหมือนกับโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต ซึ่งคนที่เป็นโรคเกาต์ทราบกันดีทุกคนว่า เมื่อเป็นแล้วจะทรมานมาก เวลากินอาหารแสลงเข้าไป ข้อเท้าจะบวมฉึ่งเจ็บปวดมากจนเดินไม่ได้ ในทางสมุนไพรมีสูตรรักษาหลายสูตร เคยแนะนำไปบ้างแล้ว สามารถบรรเทาได้ระดับหนึ่ง
สำหรับมะเฟืองเปรี้ยวสุก เป็นอีกสูตรหนึ่งที่นิยมใช้กันมาแต่โบราณ เป็นสูตรเฉพาะกลุ่ม ได้รับการบอกเล่าจากผู้ใจดีว่าสามารถทำให้โรคเกาต์หายขาดได้ จึงรีบแนะนำผู้อ่านให้นำไปใช้
โดยมีวิธีทำง่าย ๆ คือ ให้เอาผลมะเฟืองเปรี้ยวสุก จำนวน 1 ผล เกลือป่นเล็กน้อย น้ำผึ้งแท้ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำต้มสุกกะให้ได้ 2 แก้วต่อวัน ปั่นให้เข้ากันจนละเอียด กินครั้งละเกือบเต็มแก้วเช้าเย็นก่อนอาหาร ทำกินติดต่อกัน 6 วัน เจ้าของสูตรบอกว่าอาการของโรคเกาต์จะหายได้ ใครที่เป็นโรคเกาต์ทดลองทำกินไม่อันตรายอะไร
มะเฟือง ประโยชน์ทางยา ยอดมะเฟืองกับยอดมะพร้าวต้มผสมกันกินแก้ไข้หวัดใหญ่ ใบต้มอาบแก้ตุ่มคัน แก่นและรากต้มกินแก้ท้องร่วง แก้เจ็บเส้นเอ็น ผลสระผมบำรุงเส้นผม ขจัดรังแคได้
ปัจจุบันผลมะเฟืองเปรี้ยวหาซื้อยากมาก ส่วนใหญ่จะมีแต่ผลมะเฟืองหวานขาย ใครต้องการต้นมะเฟืองเปรี้ยวไปปลูก มีขายที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร
อ้างอิง… พระอธิการ นพดล กันตสีโล วัดหนองรั้ว
โรคเก๊าท์เกิดจากการมีกรดยูริกในเลือดมากเกินไป (hyperuricemia) ซึ่งสาเหตุของภาวะกรดยูริกในเลือดสูงมีคำอธิบายที่ยังไม่ชัดเจน แต่มีความเชื่อว่าปัจจัยทางด้านพันธุกรรมน่าจะมีบทบาทสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะดังกล่าว
เมื่อกรดยูริกในเลือดสูงขึ้น อาจตกผลึกในข้อต่อ ซึ่งจะกระตุ้นกระบวนการในระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งจะก่อให้เกิดการอักเสบ รวมถึงอาการปวด และบวมของข้อต่อ
แม้ว่าสาเหตุของโรคเก๊าท์ที่แท้จริงยังไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัด แต่ปัจจัยเสี่ยงบางอย่างพบว่าเกี่ยวข้องกับการเพิ่มขึ้นของกรดยูริกโดยตรง ได้แก่
1.การมีน้ำหนักเกินกว่ามาตรฐาน
2.รับประทานอาหารที่มีพิวรีน (purine) สูง เช่น เนื้อสัตว์ และอาหารทะเล เนื่องจากพิวรีนสามารถเปลี่ยนเป็นกรดยูริกได้ภายในร่างกาย
3.ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
4.ยาบางชนิดที่อาจเพิ่มระดับของกรดยูริก เช่น แอสไพริน (aspirin) ไนอาซิน (niacin) หรือการใช้ยา-ขับปัสสาวะ (diuretics)
5.ความเจ็บป่วยหรือสภาวะทางการแพทย์บางประการ เช่น การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว หรือโรคความดันโลหิตสูง
กรดยูริคคืออะไร
กรดยูริคนั้นเป็นสารที่เกิดจากร่างกายของเรา สามารถสร้างขึ้นได้เองถึง 80% ในร่างกาย ส่วนอีก 20% ที่เหลือ จะนำเข้ามาจากรับประทานอาหาร ที่มีสารพิวรีนเข้าไป โดยสารพิวรีนสามารถพบได้ในอาหารจำพวก สัตว์ปีก เครื่องในสัตว์ พืชผักบางชนิด และอาหารทะเลบางอย่าง
ถ้าหากในร่างกายมีกรดยูริคมากเกินไปจะส่งผลต่อร่างกายอย่างไร
ตามปกติแล้วร่างกายของคนเรา จะขับกรดยูริคที่เกินความจำเป็นออกไป ได้ทางปัสสาวะ แต่ในร่างกายของบางคนไม่สามารถขับกรดยูริคออกไปได้หมด จึงเกิดกรดยูริคสะสมในร่างกาย โดยเฉพาะในบริเวณของกระดูก ผนังหลอดเลือด และไต(ที่เป็นตัวฟอกเลือด+ขับกรดยูริคไปทางปัสสวะ) ดังนั้น การขับกรดยูริคออกไปไม่หมดจนตกตะกอนมากๆ จึงกลายเป็นสาเหตุหลักของการเกิดโรคเก๊าท์
อาการของโรคเก๊าท์
โรคเก๊าท์ในระยะเริ่มแรก คือมีอาการปวดแดงอย่างเฉียบพลัน โดยในช่วงวันแรกจะเป็นช่วงที่ปวดมากที่สุด และไม่มีอาการเตือนล่วงหน้า จุดที่จะแสดงอาการก่อนส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้แก่นิ้วโป้งเท้า และตรงข้อเท้า และข้อเข่า หลังจากเวลาผ่านไปในวันที่สองอาการปวดก็จะเบาบางลงและหายปวดใน 5 – 7 วันหลังเกิดอาการ โดยสถิติแล้วพบว่า เพศชายมีโอกาสเป็นโรคเก๊าท์มากกว่าเพศหญิง
อาการที่เด่นชัดของโรคเก๊าท์ คือ โพดากร้า (podagral) ซึ่งจะมีอาการอักเสบของข้อที่นิ้วหัวแม่เท้า ผู้ป่วยจะรู้สึกปวด รวมถึงสังเกตได้ว่าข้อเท้ามีอาการบวมแดงและร้อน อาการปวดมักจะเริ่มต้นในช่วงกลางคืน ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการปวดอาจเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 1 ชั่วโมง
โรคเกาต์ เป็นโรคที่รักษาให้หายขาดยากเหมือนกับโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิต ซึ่งคนที่เป็นโรคเกาต์ทราบกันดีทุกคนว่า เมื่อเป็นแล้วจะทรมานมาก เวลากินอาหารแสลงเข้าไป ข้อเท้าจะบวมฉึ่งเจ็บปวดมากจนเดินไม่ได้ ในทางสมุนไพรมีสูตรรักษาหลายสูตร เคยแนะนำไปบ้างแล้ว สามารถบรรเทาได้ระดับหนึ่ง
สำหรับมะเฟืองเปรี้ยวสุก เป็นอีกสูตรหนึ่งที่นิยมใช้กันมาแต่โบราณ เป็นสูตรเฉพาะกลุ่ม ได้รับการบอกเล่าจากผู้ใจดีว่าสามารถทำให้โรคเกาต์หายขาดได้ จึงรีบแนะนำผู้อ่านให้นำไปใช้
โดยมีวิธีทำง่าย ๆ คือ ให้เอาผลมะเฟืองเปรี้ยวสุก จำนวน 1 ผล เกลือป่นเล็กน้อย น้ำผึ้งแท้ 1 ช้อนโต๊ะ น้ำต้มสุกกะให้ได้ 2 แก้วต่อวัน ปั่นให้เข้ากันจนละเอียด กินครั้งละเกือบเต็มแก้วเช้าเย็นก่อนอาหาร ทำกินติดต่อกัน 6 วัน เจ้าของสูตรบอกว่าอาการของโรคเกาต์จะหายได้ ใครที่เป็นโรคเกาต์ทดลองทำกินไม่อันตรายอะไร
มะเฟือง ประโยชน์ทางยา ยอดมะเฟืองกับยอดมะพร้าวต้มผสมกันกินแก้ไข้หวัดใหญ่ ใบต้มอาบแก้ตุ่มคัน แก่นและรากต้มกินแก้ท้องร่วง แก้เจ็บเส้นเอ็น ผลสระผมบำรุงเส้นผม ขจัดรังแคได้
ปัจจุบันผลมะเฟืองเปรี้ยวหาซื้อยากมาก ส่วนใหญ่จะมีแต่ผลมะเฟืองหวานขาย ใครต้องการต้นมะเฟืองเปรี้ยวไปปลูก มีขายที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร
อ้างอิง… พระอธิการ นพดล กันตสีโล วัดหนองรั้ว
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น